วันอาทิตย์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ.2566 เวลา 15.00 น.ทีมข่าวช่อง7และทีมข่าวเว็บไซต์เสียงสัมพันธ์นิวส์-
ได้พบ นาย ชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร ในขณะเดินทางนำพระอาจารย์วันชัยเกสาโร(เจ้าสำนักสงฆ์วังโชกุน) เดินทางมารับรางวัล
ธรรมานุสรณ์ ประจำปี ๒๕๖๖ ณ.โรงแรมอมารี ดอนเมือง กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับเรื่องที่ดินทำกินของ-
พี่น้องชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้สัมภาษณ์นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร ตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวสุราษฎร์ธานีเกี่ยวกับเรื่อง
ที่ดินทำกิน นายชาคฤชได้กล่าวว่า ซึ่งบัดนี้ ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคำพิพากษา คดีถึงที่สุดแล้ว หลังจากที่ฟ้องเป็นเวลาเกือบ15ปีในขณะที่ นายชาคฤช ศรีภิรมย์มิตร ผู้ฟ้อง ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับการแต่งตั้งจากผู้ฟ้องคดีและผู้แจ้งความประสงค์-
ขอที่ดินทำกินเพื่อประกอบอาชีพการเกษตรแลที่อยู่อาศัยยืนยันธนารักษ์พื้นที่ประวิงเวลาโดยอ้างการส่งหนังสือถึงกรมธนารักษ์ เพื่อขอ งบประมาณในการรังวัดแปลงที่ดินดังกล่าว แต่ในการของบประมาณธนารักษ์พื้นที่ไม่ได้ตั้งงบประมาณไว้-
ในขณะศาลพิพากษาภายใน 120 วัน แต่เพิ่งมาส่งหนังสือของบประมาณตอนคำพิพากษาล่วงเลย 120 วันไปแล้ว ทั้งๆที่รู้ว่า-
การของบต้องใช้เวลาพอสมควร ทำให้การประวิงเวลาหรือ(เตี๊ยะถ่วง)เวลาเชิงนโยบาย โดยอ้างว่างบประมาณที่ขอไปยังกรมธนารักษ์นั้นยังไม่อนุมัติคงไม่ทัน คงไม่ทันการปฎิบัติ ให้ทันตามคำพิพากษาศาล จะเห็นได้ชัดและล่าช้าจนเกินจนเกินควรเป็นการประวิงเวลาเวลาเชิงนโยบายที่ดินตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด. ที่ดินดังกล่าวจึงยังอยู่ในมือผู้ประกอบการต่อไป(ลูกไม้ของหน่วยงาน ที่มีหัวหน้าหน่วยงานไม่เอาจริงและไม่มีความจริงใจในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน
ดังนั้นราษฎรผู้มีส่วนได้เสีย จึงทำหนังสือถึง ผวจ.สฎ.ในฐานะประธานคทช.เพื่อยืนยันในการออกค่าใช้จ่าย ในการรังวัดแบ่ง
แปลงกันเองเป็นการประหยัดงบประมาณแผ่นดินและที่ดินจะได้ถึงมือพี่น้องประชาชนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป นายชาคฤชได้กล่วาทิ้งท้ายว่าหากจังหวัดยังเพิกเฉยคงจะต้องนำพี่น้องประชาชนเข้าพบนายกรัฐมนตรีในลำดับต่อไป